รีวิว นาฬิกานักวิ่ง GARMIN Forerunner 225

กลับมาอีกครั้งกับการรีวิว Gadget สำหรับนักวิ่ง คราวนี้ถึงตาของเจ้านาฬิกา Garmin Forerunner 225 (FR225) ที่มาพร้อมกับ Heart rate sensor ในตัว ไม่ต้องพึ่งพาสายคาดหน้าอกอีกต่อไป

FR225 ได้ออกแบบมาสำหรับนักวิ่งอย่างเราๆโดยเฉพาะ โดยสามารถแสดงข้อมูลต่างๆที่นักวิ่งต้องการ และสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้า Smart phone ผ่านทาง Bluetooth อย่างง่ายดาย

มีอะไรให้มาบ้าง

 ในกล่องประกอบด้วย

1. นาฬิกา Garmin FR225
2. แท่นชาร์จ
3. คู่มือการใช้งาน (ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยนะครัช)

คุณสมบัติ

FR225 เป็นนาฬิกาวิ่งรุ่นแรกของ Garmin ที่มาพร้อมกับ Heart rate sensor ในตัว สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆ พร้อมกับหน้าจอสีที่แสดง Heart rate zone ได้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตือนถ้าอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป

หน้าจอสีแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมโซน แบบ Real time

Heart rate sensor อยู่บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง

สำหรับการเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนข้อมูลเข้ากับ Smart phone ก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth ผ่านแอปพลิเคชั่น Garmin Connect (รองรับทั้ง iOS และ Android) ซึ่งการถ่ายโอนข้อมูลจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่อ
 แหวน Silicone ด้านหลังช่วยกระชับข้อมือ และเพิ่มประสิทธิภาพของ HR sensor

นอกจากนี้ FR225 ยังมาพร้อมกับ Activity tracking ที่นับจำนวนก้าว ระยะเดินระหว่างวัน บันทึกชั่วโมง และคุณภาพของการนอน ได้อีกด้วย

แหวน Silicone สามารถถอดล้างได้

คุณสมบัติทั่วไป

ขนาดเครื่อง	287 มม. x 48 มม. x 16 มม. หนัก 54 กรัม
จอภาพ	ขนาด 1” (เส้นผ่านศูนย์กลาง), จอสี
Sensor	Heart Rate Monitor, GPS, Accelerometer
การกันน้ำ	5 ATM
อายุการใช้งานแบตเตอรี่	นานถึง 4 สัปดาห์ในโหมดนาฬิกา; นานถึง 10 ชั่วโมงในโหมด GPS พร้อม HRM
หน่วยความจำ	200 ชั่วโมงของข้อมูลกิจกรรม
การเตือน	เสียงเตือน, ระบบสั่น
การเชื่อมต่อ	Bluetooth, แท่นชาร์จผ่าน USB port

 

ระดับโซนการเต้นของหัวใจ

FR225 จะจับจังหวะอัตราการเต้นของหัวใจขณะวิ่ง โดยออกกำลังกายแต่ละครั้ง หัวใจก็ได้ทำงานไปตามความหนักหน่วงของการออกกำลังกาย ยิ่งเราออกกำลังกายหนักมากเท่าไหร่ หัวใจเราก็ทำงานหนักมากเท่านั้น โดยเราสามารถแบ่งอัตราการเต้นของหัวใจออกเป็น 5 โซน คือ

zone 1 Warm Up เปรียบเทียบได้กับการเดิน (50-60% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด)

zone 2 Easy เปรียบเทียบได้กับการวิ่งเหยาะ ๆ (60-70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด)

zone 3 Aerobic เปรียบเทียบได้กับการวิ่ง (70-80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด)

zone 4 Threshold เปรียบเทียบได้กับการวิ่งเร็ว (80-90% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด)

zone 5 Maximum เปรียบเทียบได้กับการวิ่งเร็วมาก ๆ (90-100% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด)

โดยในแต่ zone จะมีการดึงพลังงานมาใช้แตกต่างกัน และเราควรที่จะรู้ขีดจำกัดของร่างกายเราเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการออกกำลังกาย

แอดมินเองก็ได้ใช้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในการฝึกซ้อมมาราธอน (กรุงเทพมาราธอน) ที่ผ่านมาด้วย ทำให้แอดมินเองทำเวลาได้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพขึ้น

สรุปการทดสอบ

หลังจากได้ใช้เป็นประจำทั้งในการซ้อมวิ่ง และใข้ในชีวิตประจำวัน เป็นเวลากว่าสองเดือน ต้องบอกว่า GARMIN ไม่ทำให้แอดมินผิดหวังจริงๆ ความแม่นยำ และความรวดเร็วในการจับสัญญาณ GPS นับว่าทำได้น่าประทับใจ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็มีความแม่นยำ การออกแบบ วางปุ่มกดสะดวกต่อการใช้งาน เมนูการใช้งานก็เข้าใจง่าย ส่วนหน้าตาถึงแม้จะไม่ได้สะสวยเท่าไรนัก (ความเห็นส่วนตัว) แต่ก็สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เคอะเขิน

สนนราคา (ณ วันที่ 21 พ.ย. 2558)  10,900 บาท อาจดูว่าเป็นราคาที่สูงอยู่พอสมควร แต่ถ้าหากเพื่อนๆได้ใช้คุณสมบัติของ FR225 ทั้งหมด บวกกับความสบายที่ไม่ต้องคาดสายรัดหน้าอก และต้องการตัวช่วยที่จะช่วยให้เราซ้อมวิ่งให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ FR225 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น  

– มี GPS ในตัว และมีความแม่นยำ (เทียบโดยวัดระยะใน google earth)

– จับสัญญาณ GPS ได้อย่างรวดเร็ว

– ระบบจับอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ (ทดสอบเทียบกับสายคาดหน้าอก Polar WearLink®+)

– จอสี แสดงโซนการเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจน

– ตัวเครื่องกันน้ำ ใส่วิ่งกลางฝนได้สบายๆ

– ใส่กระชับข้อมือ น้ำหนักเบา

– Sync ข้อมูลกับ Smart phone โดยไม่ต้องต่อสาย และใช้ได้ทั้ง iOS และ Android

– Sync ข้อมูลกับ Application อื่นๆได้ เช่น Nike+, Strava, Sport Tracks, MapMyFitness เป็นต้น

จุดด้อย

– ต้องชาร์จผ่าน Dock ที่ให้มาเท่านั้น

– เกือบจะเป็น Smart Watch แล้วเชียว เสียดายว่ายังไม่สามารถรับข้อมูล feed ต่างๆจาก Smart phone ได้ (แต่ Garmin FR235 รุ่นใหม่นั้นทำได้แล้ว)

– FR225 เปิดตัวมาได้ไม่นานตอนนี้รุ่นใหม่ FR235 ใกล้ออกมาวางขายในไทยแล้ว แต่ซื้อก่อนก็ได้ใช้ก่อนนะครับอย่าคิดมาก ถถถถถ…