ติดปีกให้กับเท้าไปกับ Nike Zoom Vaporfly 4% รองเท้าวิ่งตัวท๊อปของ Nike อันเป็นผลผลิตจากโปรเจก Breaking2
4% ที่ต่อท้ายของชื่อรุ่นนี้เป็นตัวเลขที่ Nike สื่อถึงประสิทธิภาพในการวิ่งที่ดีขึ้นจากการสวมใส่รองเท้าคู่นี้ เมื่อเทียบกับรองเท้ามาราธอนที่ดีที่สุดของ Nike หรือพูดง่ายๆ คือ รองเท้าคู่นี้จะช่วยประหยัดพลังงานในการวิ่งได้ 4% ซึ่งโดยรวมจะทำให้สถิติการวิ่งของเราดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยการออกแบบรองเท้าให้มีความลื่นไหลในการวิ่ง เทคโนโลยีโฟมพื้นรองเท้าที่เบาเด้ง บวกกับแผ่น carbon fiber ทำหน้าที่เหมือนสปริงดีดให้เราทะยานไปข้างหน้า
และรองเท้ารุ่นนี้จะเป็นหนึ่งในอาวุธคู่กายของพี่ตูน กับโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ในการวิ่งระยะ 2,191 กิโลเมตร จากเบตง ถึง แม่สาย ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 25 ธ.ค. 60นี้ เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลทั่วประเทศ
(พี่ตูนจะใส่ Nike Zoom Vaporfly4% สลับกับ Nike Zoom Fly)
เกริ่นมากันซะขนาดนี้ เรามาเจาะลึกกันเลยดีกว่าว่าเมื่อได้ลองวิ่งจริงแล้วรองเท้ารุ่นนี้จะช่วยติดปีกให้กับเท้าได้จริงๆ หรือ? และจะช่วยพี่ตูนวิ่งได้มากน้อยเพียงใด?
Upper
เพื่อให้รองเท้าคู่นี้เบาที่สุด Nike ได้ออกแบบ upper ให้มีความเบาบาง และมีส่วนประกอบน้อยชิ้น ผ้าที่ใช้เป็นลักษณะตาข่ายที่ Nike เรียกว่า Flymesh มีรูพรุนระบายอากาศได้ดี แถมด้านหน้าเท้ายังเจาะรูระบายเพิ่มอีก ซึ่งช่วยระบายความร้อนขณะที่วิ่งระยะไกลได้เป็นอย่างดี
บริเวณช่วงกลางเท้ามีแถบที่ทำจากวัสดุคล้ายหนังกลับ เมื่อผูกเชือกรองเท้าจะช่วยกระชับเท้าเราไว้ได้ดี ตรงส่วนที่รัดส้นนั้นเป็นฟองน้ำบุด้วยวัสดุคล้ายหนังกลับบางๆ ถึงแม้มันจะดูบางและไม่มีโครงสร้างแข็งเหมือนรองเท้ารุ่นอื่นๆ แต่ก็สามารถกระชับส้นเท้าได้อย่างดี
Nike ZoomX midsole
ไม่เหมือนกับรองเท้าวิ่งคู่อื่นที่แอดมินเคยได้สัมผัสมา พื้นรองเท้า (midsole) ของรองเท้ารุ่นนี้มีความเด้งแบบเฉพาะตัว Nike เรียกโฟมชนิดใหม่ที่ใช้ผลิดพื้นรองเท้านี้ว่า Nike ZoomX โดย Nike บอกว่ามีคุณสมบัติสามารถส่งคืนพลังงานกลับได้ถึงร้อยละ 85
เมื่อลองใส่เดินก็รู้สึกถึงความเด้งเหมือนเดินบนพื้นที่ติดสปริงโดยเฉพาะในส่วนส้นเท้าที่มีความหนาของโฟมมากที่สุดถึง 31 mm ส่วนหน้าเท้าหนา 21 mm ทำให้มี drop อยู่ที่ 10 mm
โฟม Nike ZoomX เป็นวัสดุที่เบามาก เห็นพื้นหนาๆ แบบนี้แต่โดยรวมรองเท้าคู่นี้กลับเบามาก… และเมื่อดูจากภายนอกจะเห็นว่าตัวโฟมดูย่นเป็นรอย เหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน แต่ไม่เลยมันย่นแบบนี้ตั้งแต่เปิดกล่องนะ
แผ่น Carbon fiber
ในพื้นของ Vaporfly 4% จะมีแผ่น Carbon fiber แทรกอยู่ตลอดทั้งแผ่นหว่างชั้นโฟม ZoomX แผ่น Carbon fiber ทำหน้าที่เป็นเหมือนสปริงบอร์ดที่ช่วยดีดตัวให้พุ่งไปข้างหน้าขณะที่วิ่ง และยังทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักในการเสริมความแข็งแรงให้พื้นรองเท้าอีกด้วย
การทดสอบวิ่งจริง
Vaporfly 4% เป็นรองเท้าวิ่งที่ต้องเรียนรู้ ต้องวิ่งไปกับมันระยะนึงเราถึงจะจับจังหวะและเข้ากับมันได้ แต่พอจับทางมันได้แล้วแอดว่ารองเท้าคู่นี้ตอบโจทย์ของมันได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว
Nike ออกแบบพื้นของรองเท้าให้มีความเชิดขึ้นด้านหน้าทำตัวเราโน้มลง และพุ่งไปด้านหน้าเหมือนกับรุ่น Nike Zoom Fly แต่ที่แตกต่างคือความรู้สึกถึงความลื่นไหลระหว่างจังหวะก้าวที่ดีกว่า ด้วยความช่วยเหลือของพื้นรองเท้า (midsole) ที่ช่วยซับแรงพร้อมกับพลักเราไปข้างหน้า แอดมินเองก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แอดรู้สึกว่าที่ระดับความเหนื่อยเท่ากับที่วิ่งในรองเท้าคู่อื่น แต่แอดกลับทำความเร็วได้มากกว่าเมื่อใส่ Vaporfly 4%
ส่วนของ Upper ระบายอากาศได้น่าประทับใจมากไม่มีความรู้สึกร้อนเท้าเลย และยังสามารถกระชับเท้าขณะทำความเร็ว หรือเข้าโค้งได้ดีเช่นกัน
จะมีติดนิดนึงตอนที่วิ่งลงทางชัน ด้วยส้นที่หนาและโฟมมีความให้ตัวสูง ทำให้แอดรู้สึกว่าควบคุมการลงเท้าค่อนข้างยาก อาจต้องเรียนรู้กับมันให้มากกว่านี้
ความทนทานเป็นอีกประเด็นสำคัญที่หลายๆคนกังวล แอดมินได้ลองใส่วิ่งแล้วราวๆ 20 กิโลเมตร พบว่าผิวของพื้นโฟม ZoomX เริ่มลอกออกในส่วนที่เสียดสีกับพื้นตามรูปด้านล่างนี้ ซึ่งมันก็น่าจะลอกไปเรื่อยๆในช่วงบริเวณฝ่าเท้า แต่ยังไงก็ดีแอดมินคิดว่ารองเท้าคู่นี้ออกแบบมาให้เราใช้ใส่ลงสนามแข่ง เพื่อทำลายสถิติของเราเอง มันก็คงต้องแลกมากับอะไรบางอย่าง ดังนั้นแอดแนะนำว่าควรใช้รองเท้าคู่อื่นระหว่างซ้อม ส่วน Vaporfly 4% นี่เก็บไว้ลงสนาม หรือซ้อมใหญ่ดีกว่า
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
- ที่ลิ้นรองเท้าด้านในข้างซ้ายมีช่องให้ใส่ Location หรือสนามที่เพื่อนๆทำลายสถิติตัวเองได้ ส่วนข้างขวาจะเป็นช่องให้เขียนวันที่ทำลายสถิตินั้น
- ที่ส้นขวาบริเวณ heel cup มีตัวเลขสะท้อนแสงได้ เราสามารถเขียนสถิติที่เราทำได้กับรองเท้าคู่นี้ได้
- ตรงส้นส่วนของ midsole มีเขียนว่า “MEASURED IN THE LAB. VERIFIED WTH MEDALS AND RECORDS.” แปลว่า “วัดและทดสอบจากห้องทดลอง ยืนยันผลด้วยเหรียญรางวัล และสถิติ”
- บนลิ้นรองเท้าใต้เชือกผูกเขียนไว้ว่า “ENGINEERED TO THE EXACT SPECIFICATION OF WORLD-CLASS RUNNERS.” แปลว่า “ออกแบบตรงตามสเปกของนักวิ่งระดับโลก”
- ปลายเชือกผูกรองเท้าปลายหนึ่งมีคำว่า NIKE อีกปลายเขียนว่า RACING รวมเป็น NIKE RACING เหมือนทีมแข่งรถยังไงยังงั้น
- เป็นรองเท้า Unisex ไม่มีแยกรุ่นชายหญิง บนกล่องจะมี size บอกทั้งของชายและหญิง
- รองเท้ารุ่นนี้จะเป็นอาวุธคู่กายพี่ตูน ด้วยระยะวิ่งกว่า 2,000 กิโลเมตร กับโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยเพื่อนๆ สามารถร่วมบริจาคตามช่องทางการบริจาค ดังนี้
1. เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 ทุกสาขา
2. พร้อมเพย์ : โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ไปที่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของมูลนิธิฯ 0994000005261
3. SMS : บริจาคครั้งละ 10 บาท พิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เฉพาะเครือข่าย AIS,DTAC และ True Move H ไม่หักค่าใช้จ่าย) หมายเหตุ : ทุกยอดบริจาคผ่าน sms ไม่รวมไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%4. บัญชีรับบริจาค : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขารัชโยธิน
ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว) เลขที่บัญชี 111-393-5263 (กระแสรายวัน)
ถ้าเพื่อนๆ สนใจสามารถลองใส่ ลองวิ่งกันได้ที่ร้านไนกี้ สาขาสยามสแควร์วัน (เท่านั้น) โดย Nike Zoom Vaporfly 4% จะวางจำหน่ายในจำนวนจำกัด ในราคา 8,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
รีวิวโดย ‘วิ่งไหนดี’
ขอบคุณ Nike Thailand ที่ส่งอาวุธลับมาให้ครับ